การดูแลรักษาอุปกรณ์กีฬา
วอลเลย์บอล
1. อย่าสูบลมให้ลูกวอลเลย์บอลแข็งจนเกินไป เพราะจะทำให้หนังของลูกวอลเลย์บอลปริมีอายุการใช้งานน้อย
2. การสูบลมหรือการปล่อยลมออกจากลูกวอลเลย์บอล (ถ้าลูกแข็งเกินไป) ควรใช้เข็มสำหรับลูกวอลเลย์บอลโดยเฉพาะ ถ้าใช้เข็มชนิดอื่นจะทำให้ลูกวอลเลย์บอลชำรุดได้ง่าย
3. อย่าวางหรือเก็บลูกบอลไว้กลางแดด เพราะจะทำให้หนังของลูกวอลเลย์บอลเสียง่าย
ตะกร้อ
1.ลูกตะกร้อที่ชื้นและเปียกไม่ควรนำมาเล่น
2.ควรทำความสะอาดลูกตะกร้อ หลังจากการเล่นทุกครั้ง
3.อุปกรณ์ที่ชำรุดควรจัดการซ่อมทันที เช่น บ่วง ตาข่าย ลูกตะกร้อ เพราะถ้าทิ้งเอาไว้และนำมาใช้งานอีกจะทำให้เสียหายมากขึ้น
4.การจัดเก็บอุปกรณ์ชนิดต่างๆ ควรมีการแยกจัดเก็บไว้โดยเฉพาะเพื่อความสะดวกในการบำรุงรักษาและการนำมาใช้งาน
อุปกรณ์แร็กเก็ตได้แก่ เทนนิส แบดมินตัน สควอช แร็กเกตบอล
1. อย่าเก็บแร็กเกตไว้ในที่ร้อนจัด หรือมีอุณหภูมิสูง ตั้งแต่ 60 ํC หรือมีของหนักกดทับเป็นระยะเวลายาวนาน รวมทั้งหลีกเลี่ยง สถานที่ มีแสงอาทิตย์ส่องถึง
2. สำหรับผู้เล่นแบดมินตันอย่างหนักเป็นประจำที่ต้องการประสิทธิภาพในการเล่น แนะนำให้ทำการเปลี่ยนเอ็นแร็กเกตทุกประมาณ 45 วัน
3. ในการเปลี่ยนเอ็นควรเลือกร้านที่มีความชำนาญ หรือมีความเป็นมืออาชีพในการขึ้นเอ็น เพราะจะทราบดีว่าไม่ควรขึ้นเอ็นให้ตึงเกินกว่าที่กำหนดไว้เท่าไหร่
4. แร็กเกตที่ขึ้นเอ็นแล้ว ควรหลีกเลี่ยงไม่ให้เฟรมหรือหัวไม้ กระทบของแข็งอื่นๆอย่างรุนแรง หรือการทำให้เอ็นเป็นรอยขูดขีด เช่น การกระทบกับแร็กเกตด้วยกันในขณะเล่น หรือการใช้ไม้ช้อนเก็บลูกโดยขอบแร็กเกตถูกับพื้นสนาม
5. หลังจากเล่นเสร็จควรทำความสะอาดแร็กเกตด้วยวิธีง่ายๆ เช่น ใช้กระดาษชำระ ซับความชื้นจากเหงื่อที่ด้ามจับ และเช็ดคราบเหงื่อไคลที่เปื้อนแร็กเกต
6. สถานที่เก็บแร็กเกตหลังการเล่นที่ดีที่สุด คือสถานที่ตรงกันข้ามกับข้อ 1 นั่นเอง โดยการตั้งแร็กเกต หรือใส่ปลอก แขวนไว้ในที่ร่มในบ้านจะดีที่สุด แต่เรามักจะเห็นหลายท่านเก็บไม้ไว้ท้ายรถยนต์ ซึ่งบางครั้งต้องนำรถไปจอดกลางแจ้งเวลากลางวัน โดยลืมนึกถึงแร็กเกตที่เก็บไว้ท้ายรถ ทำให้เกิดความเสียหายขึ้นกับไม้ตามมา
7. แร็กเกตที่ไม่ได้ใช้เล่นเป็นเวลานานๆ ควรนำเอ็นออก เพราะความยืดหยุ่นของเอ็นจะสูญเสียไป และอาจทำให้แร็กเกตผิดเบี้ยวเสียรูปทรงได้