การอนุรักษ์นาฏศิลป์ไทย
ทุกคนต้องให้ความสำคัญกับหน้าที่เฝ้าระวังมรดกทางวัฒนธรรม โดยสามารถแยกแยะและปรับใช้สิ่งที่ดีงามให้เหมาะสมกับวิถีชีวิต รวมถึงกระทรวงวัฒนธรรมก็ต้องมีการสัมมนาแลกเปลี่ยนระดมความคิดระหว่างผู้ทรง คุณวุฒิ และผู้ที่เกี่ยวข้อง ในการจัดระบบข้อมูล มาตรวัดเชิงวิชาการด้านนาฏศิลป์ไทยเพื่อเป็นการกำหนดมาตรฐานศิลปะการแสดงได้ อย่างชัดเจน โดยไม่ขัดต่อวัฒนธรรม รวมถึงไม่ละเมิดวัฒนธรรมด้วย
การที่จะไม่ให้นาฏศิลป์ไทยถูกกลืนไปนั้น เด็กไทยควรได้เรียนรู้และปฏิบัติเกี่ยวกับนาฏศิลป์ไทยตั้งแต่วัยเยาว์ จนรู้สึกเป็นเรื่องปกติในชีวิตประจำวันเพื่อให้เยาวชนของชาติทุกคนได้รู้ว่า "นาฏศิลป์ไทย" คืออะไร ส่วนเมื่อเขาเติบโตขึ้น จะสนใจศาสตร์หรือศิลปะในสาขาอื่นใด หรือจะนำเอานาฏศิลป์ไทยไปประยุกต์เข้ากับนาฏศิลป์ประเทศอื่นก็ให้เป็นทาง เลือกของแต่ละคน แต่ที่แน่ๆ เด็กไทยได้สืบสานและแยกแยะได้ว่าสิ่งใดคือนาฏศิลป์ไทย
การพัฒนาปรับปรุงมิให้การแสดงของไทยเกิดความซ้ำซากจำเจหรือยึดติดกับวิธีการ เดิมๆ ทางหนึ่ง คือ การพัฒนาเรื่องฉาก เวที และเทคนิคสมัยใหม่ รวมทั้งในเรื่องแสงและเสียง ซึ่งมีผลต่อการรับรู้ของผู้ดูแต่การเปลี่ยนแปลงมากเกินไปอาจจะนำไปสู่ความ เสียหาย หากเปิดใจรับวิทยาการใหม่ๆ ก็เป็นการปรับปรุงมรดกเก่าให้อยู่รอดได้ รักษาความเป็นตัวเองมิให้สูญสลายหากไม่เปลี่ยนแปลงเลยก็จะนำไปสู่ความเสื่อม โทรม
อย่างไรก็ดี สิ่งสำคัญในการสร้างและพัฒนานาฏศิลป์ คือ การประสานกันในทุกฝ่ายเพื่อสร้างเอกลักษณ์ของงานชิ้นนั้นให้ปรากฏขึ้นมา เป็นการเรียกร้องและท้าทายสติปัญญา ความสามารถ ความคิดสร้างสรรค์ และความมีรสนิยมจากผู้รู้ทุกสาขา